ความสำคัญของการบริหารงานบุคคลในอนาคต

การบริหารงานบุคคลนับได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญดังที่ได้กล่าวมาแล้วในตอนแรก และเป็นเรื่องราว ที่มีเทคนิควิธีการที่จำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้ได้ผลในแง่ของประสิทธิภาพของการใช้พนักงานในทางการผลิตความสำคัญของงานด้านการบริหารงานบุคคลในองค์การ ในปัจจุบันนับว่าได้มีขอบเขตที่กว้างขวางและมีความหมายที่มีคุณค่ามากกว่าแต่ก่อน จนกระทั่งได้มีการใช้ชื่อใหม่ที่มีความหมายกว้างและลึกซึ้งกว่าว่าเป็นเรื่องราวทางด้านการจัดการที่เกี่ยวกับทรัพยากร มนุษย์ (Human Resource Management) ๆซึ่งมีความพยายามที่จะให้ตระหนักถึงความสำคัญและ ความจำเป็นที่จะสนใจปัจจัยทางด้านทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีคุณค่าที่สุดทางการผลิตและ ในการดำเนินงานของค์การ ซึ่งมีผลต่อสังคมและมนุษย์ในสังคมที่จะอยู่ดีกินดียิ่งขึ้น การจัดการทรัพยากรมนุษย์นับว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทุกฝ่าย ซึ่งนอกจากจะมุ่งเน้นว่าองค์การจำเป็นจะต้องมีผู้บริหารงาน บุคคลที่เป็นผู้ชำนาญการทางด้านเทคนิคเข้ามาดำเนินการแล้ว ความสำคัญที่ยิ่งยวดกว่าและมีผลเท่าทวีกว่านั้นก็คือความรู้จักและรับผิดชอบของหัวหน้างานหรือผู้บริหารในฝ่ายปฏิบัติทุกคนที่นอกเหนือ ไปกว่าผู้ชำนาญการด้านบุคคลที่จะต้องเข้าใจวิธีการจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้ถูกต้อง ผลรวมที่จะได้ จากการจัดการทรัพยากรมนุษย์ในความหมายของการบริหารงานบุคคลที่ถูกต้อง จึงจะปรากฏเห็นได้ อย่างแท้จริง ดังนั้นการบริหารงานบุคคลในสมัยปัจจุบัน จึงมิได้หมายความถึงการเป็นหน้าที่ของการเป็นผู้ชำนาญการด้านการบริหารงานบุคคลหรือฝ่ายการพนักงานเท่านั้น หากแต่เป็นเรื่องเกี่ยวพันกัน

ที่ผลลัพธ์ที่ได้จากการปฏิบัติย่อมอยู่ที่นํ้าหนักความสำคัญของ Line Manager หรือผู้บริหารในทางปฏิบัติทุกคนที่ต้องมุ่งปฏิบัติเรื่องนี้ให้ได้ผลมากที่สุดเท่าที่พึงจะทำได้

 

แนวโน้มของวิวัฒนาการการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้นับว่าปรากฎชัดแจ้งขึ้นในสังคมปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะปัญหาอันสืบเนื่องมาจากกรณีต่าง ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในภาวะแวดล้อมซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ดังจะสรุปเป็นปัจจัยสำคัญเป็นข้อ ๆ ดังนี้ คือ

1.  ประเภทแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป นั่นคือแรงงานในปัจจุบันถ้าหากพิจารณาให้ถ่องแท้จะเห็นว่าประกอบด้วยแรงงานสตรีเป็นจำนวนมาก รวมตลอดจนถึงปัญหาแรงงานที่เป็นวัยเด็กต่าง ๆ ซึ่งนั่นย่อมหมายถึงการมีลักษณะประเภทของพนักงานที่จะต้องบริหารให้ถูกต้องเพื่อให้เกิดผลดีในการทำงาน ตลอดจนคุณภาพของผลผลิตพร้อม ๆ กับชีวิตความเป็นอยู่และคุณภาพของคนงานด้วย ปัญหาส่วนใหญ่ที่มุ่งเน้นและแก้ไขก็คือการพยายามจัดให้มีการพัฒนาองค์การเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติทั้งหญิงและชายเพื่อจะให้มีโอกาสในการก้าวหน้า ในทางปฏิบัติในบางครั้งการจัดสถานที่ดูแลบุตร หรือการให้สวัสดิการด้านโรงเรียน ก็เป็นสิ่งช่วยลดความตึงเครียดของทั้งสามีและภรรยาที่เกี่ยวกับการดูแลเด็กอ่อนก่อนวัยเรียน

2.  คุณภาพของชีวิตของผู้ใช้แรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป จะเห็นได้ว่า คุณภาพของชีวิตในปัจจุบันได้ถูกบั่นทอนลงหลายประการ อันสืบเนื่องมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น เงินเฟ้อ สภาพแวดล้อมเป็นพิษ การมีประชากรหนาแน่นเกินไป การมีอาชญากรรมตลอดจนความตึงเครียดและความวุ่นวายสับสนของชีวิตสมัยใหม่ ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาขององค์การซึ่งจำเป็นที่จะต้องแก้ไขเพื่อให้ปัญหาลุล่วงไปด้วยดี ฝ่ายจัดการจึงต้องมุ่งพยายามที่จะหาวิธีที่จะลดความสับสนวุ่นวาย เท่าที่จะทำได้ เพื่อจะให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น อาจจะกล่าวได้ว่าในสังคมไทยนั้นด้วยภาวะเศรษฐกิจ ที่ตกตํ่าที่ค่าจ้างแรงงานที่ตํ่ามาก และการถีบตัวของภาวะการครองชีพนับเป็นความล้มเหลวของโครงการเศรษฐกิจที่ได้มีส่วนทำลายให้ชีวิตความเป็นอยู่มีมาตรฐานตํ่าและเลวลงกว่าเดิมเป็นอันมาก ซึ่งการทำงานของภรรยาในการช่วยหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว ได้มีภารกิจที่เท่าเทียมกับสามีเพื่อระดับของการอยู่รอดขั้นตํ่า ซึ่งส่งผลกระทบให้ชีวิตครอบครัวเป็นชีวิตที่แตกกระจายที่ไม่มีการดูแล กัน อันเป็นผลทำให้ขาดความอบอุ่น ซึ่งกระทบต่อการอบรม และการให้ความอบอุ่นแก่บุตรหลาน และบางครั้งก็อาจเลวลงกว่านั้น แม้แต่เด็กที่เป็นสมาชิกของครอบครัวก็ต้องออกมุ่งหางานทำด้วย แนวความคิดเรื่องค่าจ้างขั้นตํ่าย่อมเป็นพื้นฐานที่ควรจะได้รับการวิเคราะห์จากข้อเท็จจริงตลอดเวลา สภาพของการทำงานตลอดจนวิธีการสัญจรไปมา เรื่องจราจรติดขัดก็เป็นปัญหาอย่างยิ่งที่ทำให้บั่นทอนชั่วโมงของการที่จะได้มีการพักผ่อนให้ต้องอยู่ในภาวะตึงเครียด จนกระทั่งไม่มีเวลาแม้แต่จะพักผ่อนในขั้นตํ่าหรือการมีโอกาสจัดหาจัดเตรียมอาหารภายในบ้าน นอกจากนี้สำหรับผู้มีรายได้ตํ่าหรือ มีภารกิจความรับผิดชอบที่สูง การทำล่วงเวลาเกินเหตุผลก็เป็นส่วนหนึ่งทำให้ชิวิตความเป็นอยู่ของสังคมเลวลง ปัญหาเรื่องของการบริหารพนักงานที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีมาตรการพิเศษที่ได้มีการแก้ไขปรับปรุงตลอดเวลา เช่น การให้โอกาสโยกย้ายไปทำงานในแหล่งสาขาที่ใกล้บ้าน จัดสิ่งอำนวยความสะดวกบางประการ การช่วยลดภาระโดยการให้มีโรงเรียนของแหล่งของผู้อาศัยที่จัดเป็นกลุ่มก้อน ตลอดจนแม้แต่การให้ค่าจ้างเพิ่มและช่วยให้มีการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพในทางการผลิตดีขึ้นให้พร้อมกัน ก็เป็นสิ่งที่นับว่าเขนภารกิจที่ท้าทายความสามารณเละความมีคุณค่าที่แท้จริงของผู้ บริหารบุคคลและผู้บริหารทุกหน่วยงานที่รออยู่แล้ว

3.  ปัญหาด้านการขาดแคลนพลังงาน นับว่าเป็นปัญหาสำคัญที่มีผลกระทบเกี่ยวโยงกับเรื่องการเดินทาง ซึ่งการจัดสวัสดิการ ตลอดจนการให้บริการเดินทางต่าง ๆ นับเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องพิจารณาให้ความอนุเคราะห์

4.  ปัญหาเรื่องเวลาของการทำงาน อาจกล่าวได้ว่าเวลามาตรฐานที่ทำงานทั่วไป 8-9 ชั่วโมงนั้น นับว่าเป็นจำนวนที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามในสภาพที่ปัญหาสภาพแวดล้อมภายนอก แก้ไม่ตกนั้น การมีจำนวนชั่วโมงในเวลาสำนักงานที่กำหนดไว้สูงก็มิได้ช่วยมากนักในเรื่องผลผลิต และกลับไม่คุ้มกับการปิดโอกาสแก่พนักงานที่จะได้จัดแจงเรื่องราวทางชีวิตครอบครัว โดยเฉพาะในตอนเย็นระหว่าง 16.30น. ถึง 17.00น. ซึ่งในครึ่งชั่วโมงนี้ หากได้จัดเวลาถูกต้อง การมีโอกาสที่จะจัดเตรียมอาหารในบ้าน และให้มีเวลารับบุตรธิดากลับบ้านก็ย่อมเป็นสิ่งที่ช่วยได้และคุ้มค่ากว่า ใน ต่างประเทศจึงได้มีการพิจารณาแก้ไขสิ่งเหล่านี้เป็นกรณีพิเศษ ที่เรียกว่า Flexitime

และในวงการวิชาการก็มีระบบ Sabbaticals

5.  ว่าด้วยการจ่ายตอบแทน ในเรื่องนี้นับว่าสำคัญที่สุดโดยเฉพาะแบบของการจ่ายตอบแทน ซึ่งโดยปกตินับว่าเป็นต้นทุนที่สำคัญ อย่างไรก็ตามการมีระบบและแบบของการจ่ายที่ถูกต้องนั้น ไม่แน่นอนเสมอไปว่าการที่สูงกว่าจะให้ได้ผลที่สูงกว่า ความถูกต้องย่อมอยู่ที่การดำเนินงานในแง่ต่าง ๆ ที่ควรจะได้มีการพิจารณาจัดขึ้นให้เหมาะสมกับความต้องการของพนักงานทั้งในแง่ผลประโยชน์ตอบแทนและผลประโยชน์อื่น ๆ รวมตลอดถึงการให้บริการช่วยเหลือที่เกี่ยวกับการให้ความมั่นคงและความปลอดภัย

6.  ปัจจัยที่เกี่ยวกับเครื่องจักรสมองกลที่มีผลกระทบ เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการใช้คอมพิวเตอร์เข้าประกอบในการดำเนินธุรกิจในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นับว่าได้ก้าวหน้าอย่างมากซึ่งคาดหมายต่อไปได้ ว่าจะมีการก้าวหน้าต่อไปอีกในอัตราที่รวดเร็วกว่าวิทยาการด้านนี้ย่อมมีผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะของการทำงานของพนักงาน ซึ่งความคิดความเข้าใจตลอดจนการออกแบบงานสำหรับให้เหมาะสมกับคนให้มากยิ่งขึ้น นับเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการในซีกของการพนักงานทั้งในแง่ของการ ให้การอบรมเพิ่มเติมตลอดจนการเพิ่มความรู้ให้กับพนักงานหลายด้านให้กว้างขึ้น เพื่อที่จะได้มีขอบเขตการทำงานในเนื้อหางาน เพื่อแลกกับสิ่งที่เครื่องจักรสมองกลได้เข้ามาช่วยทดแทนแรงงาน

7.  ความเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจ การผันผวนขึ้นลงของภาวะเศรษฐกิจได้มีผลกระทบต่อปัญหาแรงงานเป็นอย่างมาก แรงงานในภาคอุตสาหกรรมโดยแท้จริงแล้วเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ในทางการผลิต แต่ในแรงงานทางภาคเกษตรกรรมกับต้นทุนค่าตอบแทนที่มิได้ถูกพิจารณาจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลย สภาพกลับเป็นไปในรูปของการอยู่รอด และการหาวิธีเอาตัวรอดด้วยตนเอง โดยไม่มีการช่วยเหลือจากฝ่ายใด ดังนั้นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ต้องทำให้ได้ผลโดยเฉพาะในการผลิตไม่ว่าในภาคของเกษตรกรรมหรืออุตสาหกรรม ล้วนแต่มีความสำคัญควบคู่ที่จะต้องมีคุณภาพจากการประสาน การบริหารงานบุคคลจากทุกจุดทุกประเภท ทุกขอบเขตของการผลิตทั้งทางเกษตรกรรมที่จะต้องเสริมสนับสนุนขึ้นมาพร้อมกันทั้งประเทศ