ประโยชน์ของการพัฒนาสายงานอาชีพ

ทำนองเดียวกันกับงานด้านการบริหารงานบุคคลอื่น ๆ การพัฒนาความก้าวหน้าในสายงานอาชีพก็เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลและองค์การ  ถ้าหากได้มีการจัดทำสิ่งเหล่านี้ได้ถูกต้อง เหตุผลที่ได้มีการจัดการพัฒนาความก้าวหน้าในสายงานอาชีพก็เพราะเหตุผลต่อไปนี้ คือ

1. เพื่อช่วยให้พนักงานและองค์การบรรลุถึงวัตถุประสงค์ได้ร่วมกัน วัตถุประสงค์ของการมีการจัดพัฒนาความก้าวหน้าในสายงานอาชีพก็คือ  เพื่อที่จะให้มีการจัดและกำหนดแผนการเติบโตของพนักงานแต่ละคน  ที่จะมีโอกาสสำเร็จผลในการทำงานตามเป้าหมายต่าง ๆ ขององค์การได้สำเร็จ  วิธีหนึ่งที่องค์การจะช่วยให้มีความมั่นใจในเป้าหมายของความก้าวหน้าแต่ละคนนี้ก็คือ  การให้ข้อสัญญาว่า  ถ้าหากพนักงานผู้นั้นสามารถทำงานได้สำเร็จผลตามที่องค์การกำหนดไว้แล้ว  บุคคลผู้นั้นก็จะมีโอกาสสำเร็จผลในอันที่จะก้าวหน้าในส่วนตัวของตัวเขาเองด้วย  โดยปกติทั่วไปแล้วพนักงานที่มีความรู้ความสามารถ  มักจะต้องการที่จะควบคุมความก้าวหน้าของอาชีพของตัวเองตลอดเวลา  ดังนั้นถ้าหากเป้าหมายนี้ได้บรรลุถึงวัตถุประสงค์และมีโอกาสที่จะให้เขาเข้าใจถึงระดับขั้นตอนของการเติบโตแล้ว  พนักงานก็ย่อมจะมีความพึงพอใจ และผลผลิต ตลอดจนความสำเร็จในงานก็จะปรากฎ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้นั้นมีความภาคภูมิใจในความสามารถของตัวเองด้วย

2.  เพื่อที่จะเป็นเครื่องมือป้องกันมิให้มีการหวงคนเอาไว้ จากที่ได้พบโดยทั่วไปจะเป็นว่า  เมื่อหัวหน้างานได้สร้างทีมงานของตัวเองขึ้นมาแล้ว  เมื่อสร้างสำเร็จเมื่อใดก็มักจะไม่ยอมที่จะให้คนของตัวออกไปอยู่กับจุดอื่น  ทั้งนี้ก็เพราะว่า  การมีคนเก่าที่เป็นงานอยู่กับตนนั้น  ย่อมเป็นการสะดวกกว่า  แต่กลับเป็นปัญหาที่เป็นอุปสรรค ทำให้คนที่ถูกดึงเอาไว้นั้น พลาดโอกาสที่จะได้รับการเลื่อนชั้นหรือพัฒนาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในจุดอื่นต่อไป  และในที่สุดพนักงานบางคนก็กลับกลายเป็นคนที่มีความชำนาญหรือมีความสามารถมากเกินไป  แต่ยังคงต้องทำงานในที่เก่า  ที่ถูกแล้วเขาควรจะได้รับการเลื่อนชั้นไปในจุดอื่น ซึ่งจะให้ผลต่อองค์การในส่วนรวมคุ้มค่ากว่า  ในกรณีที่หัวหน้างานดึงเอาคนของตนไว้เช่นนี้  ย่อมจะก่อให้เกิดผลเสียที่พนักงานนั้นจะเกิดความกระอักกระอ่วน ทั้งกับตัวเองและเป็นปัญหาติดขัดกับองค์การด้วยเช่นกัน  ดังนั้นการจัดแผนการพัฒนาความก้าวหน้าในสายงานอาชีพ จึงเท่ากับเป็นเครื่องป้องกันมิให้มีการกระทำดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม  เนื่องจากปัญหาต้นทุนได้บีบคั้นเป็นอันมาก  ในระยะปัจจุบันซึ่งประสิทธิภาพในการต้องใช้คนจะต้องมีผลดียิ่งขึ้น  และคุ้มค่ายิ่งขึ้น  ได้มีส่วนทำให้ปัญหานี้ลดน้อยลงไปบ้างในหลาย ๆแห่ง

3.  ช่วยลดความล้าสมัยของพนักงานแต่ละคน เมื่อพนักงานทำงานไปนาน ๆ ในจุดใดจุดหนึ่ง  โดยไม่มีการโยกย้ายนั้น  มักจะทำให้คนนั้นล้าสมัยกลายเป็นคนแคบ ขาดทัศนคติที่กว้างหรือขาดประสบการณ์ในหน้าที่งานอื่น ๆ หลาย ๆ ด้าน สาเหตุส่วนใหญ่อาจจะเกิดขึ้นจากการขาดการฝึกอบรมก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาที่ได้พบมักจะกลายเป็นว่าพนักงานผู้นั้นขาดโอกาสที่จะได้รับการพัฒนาให้เติบโตไปในจุดอื่น  จึงมักจะทำให้แรงจูงใจของเขามีน้อยลงไป  ความกระตือรือร้นที่จะสนใจติดตามเรื่องใหม่ ๆ มักมีน้อยลง  ซึ่งทำให้คนดังกล่าวยิ่งมีปัญหาซ้ำเติมที่ไม่อาจจะมีความรู้ในเรื่องใหม่ ๆ พอเพียงสำหรับการเติบโตไปในสายงานในจุดอื่น  ความล้าสมัยในหน้าที่งานนี้มักจะปรากฎในช่วงของการทำงานในระยะอายุงานที่อยู่ในช่วงกลาง ๆ ของอาชีพ  ซึ่งหมายถึงว่าได้ทำงานในหน้าที่นั้นนานตามสมควรและมิได้มีการฝึกอบรมและเตรียมการที่จะไปสู่งานใหม่

4.  ช่วยลดอัตราการลาออกและต้นทุนด้านบุคคล จากการศึกษาของผู้ชำนาญการด้านการบริหารงานบุคคล  ได้พบว่าถ้าหากองค์การได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้และได้ช่วยพนักงานของตัวในการวางแผ่นเกี่ยวกับอาชีพแล้ว  ผลประโยชน์ที่พลอยได้ที่สำคัญก็คือ  ได้มีส่วนในการช่วยลดการลาออกของพนักงาน  และลดต้นทุนที่เกี่ยวกับการที่พนักงานลาหยุดด้วย  อันนี้นับว่าเป็นเหตุสำคัญที่เป็นเครื่องชี้ชัดว่า  ฝ่ายจัดการจะต้องเห็นถึงความจำเป็นในการดำเนินการจัดแผนการพัฒนาความก้าวหน้าทางอาชีพให้

ในเรื่องของการจัดความก้าวหน้าทางสายงานอาชีพนี้  ในทัศนะของผู้บริหารโดยทั่วไปแล้วมิใช่ทุกคนจะเห็นประโยชน์ดังกล่าวได้ทั่วกันหมด  หัวหน้างานหลายคนมักจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องนี้ หรือแม้แต่พนักงานบางคนก็เป็นปัญหาที่ไม่เข้าใจถึงปัญหาในเรื่องนี้  อย่างไรก็ตามการจัดพัฒนาความก้าวหน้าในสายงานอาชีพมิใช่เป็นเรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ ทั้งนี้ก็เพราะว่าแต่ละคนมักจะมีความต้องการที่แตกต่างกันมากในเรื่องความก้าวหน้าของอาชีพ และในเวลาเดียวกันในองค์การก็มีสายงานในอาชีพที่แตกต่างกันอย่างมากด้วยเช่นกัน  ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะกำหนดเป็นมาตรฐานของช่องทางและหนทางความก้าวหน้าของสายงานอาชีพให้แน่นอนที่แต่ละคนจะดำเนินไปตามแผนได้  วิธีที่จัดทำส่วนใหญ่จึงมักจะมีการจัดทำในลักษณะเป็นกลุ่มมากกว่าที่จะจัดทำแผนการพัฒนาความก้าวหน้าให้เป็นรายบุคคลขึ้นเป็นคน ๆ ไป  ในเรื่องของการพัฒนาความก้าวหน้าในอาชีพงานนี้ นับว่าเป็นเรื่องใหม่ซึ่งผู้ชำนาญการหลายคนได้ตั้งคำถามไว้เช่นเดียวกันว่า  องค์การจะสามารถพัฒนาและจัดความก้าวหน้าในสายงานอาชีพให้กับพนักงานได้จริงหรือ?  ในเรื่องนี้หากได้มีการพิจารณาถึงผลประโยชน์แล้ว  สิ่งเหล่านี้แม้จะยากก็ยังคงเป็นสิ่งที่ควรจะได้ทดลองทำ