สอนพนักงานอย่างไรจึงจะมีประสิทธิผล

การสอนแนะ (Coaching) เป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึกอบรมไปพร้อม ๆ กับการทำงาน (On The Job Training) ซึ่งผู้บริหารจะดำเนินการกับพนักงานโดยตรง ในการสอนเพื่อปรับปรุงทักษะที่สัมพันธ์กับงานที่พนักงานทำอยู่ พัฒนาทักษะการทำงานในตัวพนักงานซึ่งจะนำไปสู่ผลกำไรที่สูงกว่า และ/หรือบริการที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังได้ผลประโยชน์ข้างเคียงในด้านอื่น ๆ ซึ่งเริ่ม ต้นด้วยการปรับปรุงการสื่อความหมายซึ่งจะนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ผลของ เป้าหมายในองค์การโดยทางอ้อม

การสอนแนะมีความจำเป็นเมื่อผลการปฎิบัติงานจริง ๆ ไม่สัมพันธ์กับผลงานที่คาดหวัง มีหลักเกณฑ์สองข้อที่ควรนำมาพิจารณาเพื่อกำหนดว่าเมื่อไรจึงต้องมีการสอนแนะ

หนึ่ง การสอนแนะควรนำมาใช้เมื่อมีปัญหาที่สัมพันธ์กับทักษะเฉพาะ (Specific Skill) และ

สอง เมื่อปัญหาทักษะมีความง่ายเพียงพอ ที่จะแก้ไขได้

ในขณะที่คุณเดินใปรอบ ๆ แผนกของคุณจะสังเกตเห็นว่าไม่เพียงแต่พนักงานทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่จะทำงานตรงข้ามกับกระบวนการทำงานที่ทางองค์การได้เสนอแนะไว้

หรือเป็นเวลาที่แผนกของคุณจะต้องเสนองบประมาณภายในหนึ่งสัปดาห์และคุณไม่มีเวลาที่จะเตรียม ดังนั้นคุณจึงต้อง ให้พนักงานช่วยเหลือคุณ

หรือจากการช่วยเหลือของพนักงานของคุณ คุณมีกระบวนการทำงานแบบใหม่ที่จะช่วยประหยัดเงินขององค์การเป็นจำนวนมากในระหว่างสองสามปีข้างหน้า หัวหน้างานของคุณรู้สึกประทับ ใจ และอยากเห็นหน่วยต่าง ๆ ของคุณได้ใช้ระบบการทำงานใหม่นี้ด้วย

เหตุการณ์ทั้งสามข้างต้นเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารบ่อยๆ มันชี้ให้เห็นความจำเป็นซึ่งผู้บริหารทุกคนจะต้องมีเครื่องมือ การเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล ผู้บริหารมักถูกขอร้องให้สอนทักษะการทำงานที่มีประสิทธิผลกว่าบ่อย ๆ ผู้บริหารมีหน้าที่รับผิดชอบหลายอย่าง แต่หน้าที่ที่สำคัญที่สุดคือ ประกันว่าพนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิผล มีแนวทางหลายแนวทางที่จะทำให้พนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิผล แนวทางหนึ่งก็คือ การสอนแนะ

เราส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับคำว่า “โค้ชชิ่ง (Coaching)” หรือการสอนแนะในด้านกีฬา หลักการโค้ชชิ่งในทางกีฬา ได้ถูกนำมาใช้โดยผู้บริหารดี ๆ เกือบทุกวัน ผลลัพธ์อาจจะไม่ใช่การชนะ แต่เป็นประสิทธิผล แผนกที่ทำงานอย่างมีประสิทธิผล จะได้รับการสอนแนะในแนวทางเดียวกับการโค้ชชิ่งทางกีฬา

ในความรู้สึกทางการบริหารการสอนและเป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึกอบรมระหว่างการทำงาน ซึ่งผู้บริหารจะดำเนินงานโดยตรงกับพนักงานโดยการสอนหรือปรับปรุงทักษะที่สัมพันธ์กับงาน

บางทีขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการสอนแนะที่มีประสิทธิผลก็คือการก่อให้เกิดพนักงานมีความรู้สึกว่าจำเป็นต้องรู้ พนักงานจะต้องมองเห็นความต้องการในการเรียนรู้ทักษะเฉพาะมิฉะนั้นแล้วสิ่งที่ผู้บริหารพูดไปก็เหมือนกับพูดให้คนหูหนวกฟัง

หลังจากที่พนักงานได้ตระหนักว่ามีความจำเป็นต้องรู้แล้ว พนักงานจะต้องเข้าใจจุดมุ่งหมายของการเรียนรู้จำเพาะ เมื่อพนักงานมีความเข้าใจเบื้องต้นแล้วว่าทำไมเขาควรจะเรียนรู้ทักษะ และควรเรียนรู้ทักษะอะไร จะต้องมีการอธิบายทักษะอย่างแจ่มชัด

หลังจากที่ได้บอกกล่าวให้พนักงานรู้แล้วว่าทักษะนั้น ๆ ควรปฏิบัติอย่างไรแล้ว ผู้บริหารจะต้องสาธิตทักษะนั้นๆให้พนักงานดู ผู้บริหารอาจจะลงมือสาธิตเองหรือให้คนอื่นสาธิตให้ดู สิ่งสำคัญก็คือ ผู้บริหารจะต้องเฝ้าดูว่าการสาธิตทักษะนั้น ๆ ถูกต้อง

มาถึงจุดนี้ พนักงานจะมีแนวความคิดที่ค่อนข้างดี ในการใช้ทักษะนั้นๆขั้นต่อไปเขาจะมีโอกาสในการลงมือทำหรือฝึกฝนทักษะ ขั้นตอนฝึกหัดนี้จะทำซ้ำๆ หลายครั้งจนเขาเกิดความชำนาญ

ในระหว่างการฝึกฝนทักษะ ผู้บริหารควรให้ผลสะท้อนกลับแก่พนักงานอย่างสมํ่าเสมอ เพราะผลสะท้อนกลับดังกล่าว จะเป็นการประกันถึงการใช้ทักษะที่ถูกต้อง

สรุป

การสอนแนะมีหกขั้นตอน คือ

( l) ก่อให้เกิดความจำเป็นที่จะต้องรู้ในตัวพนักงาน

(2) ระบุเป้าหมายการเรียนรู้จำเพาะ

(3) บอกพนักงานว่าจะใช้ทักษะอย่างไร

(4) สาธิตให้พนักงานดู

(5) ให้พนักงานทดลองทำดู

(6) ให้ผลสะท้อนกลับแก่พนักงาน

เป้าหมายในผลทั่วไปหรือบริการขององค์การสามารถทำให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ได้ โดยการดำเนินงานทางด้านการบริหารที่ดีกว่า สิ่งดังกล่าวจะทำให้จุดมุ่งหมายส่วนตัวของพนักงาน อาทิ เช่น การขึ้นเงินเดือน และความก้าวหน้าบรรลุผลเช่นเดียวกัน