ความสำคัญของการสำรวจอัตราค่าจ้าง

การทำ Wage Survey จะเป็นประโยชน์ที่จะได้ข้อมูล ตัวเลขที่จะใช้กำหนดราคาค่าจ้าง (ที่กำหนดขึ้นครั้งแรก) และตั้งระดับค่าจ้างและเงินเดือน

การสำรวจค่าจ้าง นี้หมายถึง การจัดทำสถิติเกี่ยวกับค่าจ้างแยกตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ตามอาชีพ ตามอุตสาหกรรม หรือตามเมืองต่าง ๆ สำหรับช่วงเวลาหนึ่งที่กำหนดหรือที่จะนำมาใช้

ความมุ่งหมายของการจัดสำรวจค่าจ้างก็คือ เพื่อรวบรวมข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับค่าจ้างเอาไว้เพื่อช่วยในการกำหนดระดับของค่าจ้างหรือเพื่อประโยชน์ในการนำมาปรับปรุงแก้ไขค่าจ้างที่ใช้อยู่ให้เกิดความยุติธรรมยิ่งขึ้น ในการกำหนดค่าจ้างดังกล่าว

การสำรวจค่าจ้างจะต้องมีการกำหนดขนาดและขอบเขตของการสำรวจให้มีขนาดเหมาะสมไม่คลุมกว้างจนไม่สามารถทำการศึกษาได้ นอกจากนี้ การสำรวจยังควรที่จะมุ่งสนใจเก็บข้อมูลตัวเลขจากองค์การธุรกิจที่สามารถเปรียบเทียบได้ และที่มีความตั้งใจจริงที่จะใช้วิธีการสำรวจในสภาพที่เป็นจริง อัตราค่าจ้างของทั่วประเทศมักจะไม่เป็นแบบอย่างเดียวกันหรือไม่สม่ำเสมอกัน แต่อย่างไรก็ตาม แต่ละอุตสาหกรรมต่างก็จะมีช่วงการจ่ายที่สามารถสัมพันธ์เทียบเคียงกันได้

ในการทำการสำรวจค่าจ้าง ผู้จัดทำจะต้องตระหนักถึงอยู่เสมอเกี่ยวกับเรื่องที่ทำการสำรวจว่า ตัวเลขข้อมูลเหล่านั้นใช้ได้เพียงใด มีข้อจำกัดอย่างไร และควรจะนำมาสัมพันธ์เพิ่มกำหนดค่าจ้างเพียงไร

ข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี 1. ช่วยให้อัตราค่าจ้างที่องค์การธุรกิจทำการเทียบเคียงกับการสำรวจนั้น มีความสมํ่าเสมอ ด้วยวิธีการสำรวจที่ต่อเนื่อง

2.  ช่วยอำนวยความสะดวกในการเจรจาต่อรองระหว่างคนงานกับฝ่ายบริหารและอื่น ๆ โดยสามารถมีพื้นฐานร่วมขั้นเดียวกันที่ทุกฝ่ายจะยอมรับได้ง่าย

3.  ช่วยให้มีการเปลี่ยนแปลงถึงความสมเหตุสมผลของระดับค่าจ้างด้วยการเทียบเคียงกับส่วนอื่น ๆ เช่น ของอุตสาหกรรมเดียวกัน

ข้อเสีย 1. มีข้อจำกัดที่การสำรวจส่วนใหญ่มักจะกระทำโดยเลือกกลุ่มตัวอย่างเท่านั้น จึงไม่สามารถครอบคลุมถึงงานทุกประเภท และปัญหาเรื่องความถูกต้องในการตีความของสถิติก็ยังเป็นปัญหาสำคัญที่มักจะทำให้ผลการสำรวจมีความเชื่อถือได้ต่างกัน

2. มีข้อจำกัดสำคัญที่ว่า ข้อมูลตัวเลขที่ได้นั้นจะใช้เปรียบเทียบกับที่ต้องการได้หรือไม่ เพียงใด ถ้าหากงานที่ใช้สำรวจไม่สามารถเปรียบเทียบกับงานที่ต้องการนำมาเปรียบเทียบแล้ว ก็ย่อมไม่เกิดประโยชน์อันใดเลย ปัญหาที่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือมักจะเป็นการยากที่จะทราบว่าค่าจ้างที่สำรวจนั้นได้รวมถึงการ จ่ายผลตอบแทนอื่น ๆ หรือไม่

3. ปัญหาเรื่องข้อแตกต่างของเวลาในการทำการสำรวจ และขณะนำมาใช้ ถ้าหากแตกต่างกันนับแต่การสำรวจ การสรุปความ และการนำมาใช้ ปัญหาก็มักจะเกิดขึ้นเสมอ