องค์ประกอบของภาพพจน์

ภาพพจน์รวมที่ท่านสร้างให้อยู่ในสายตาของผูอื่นนั้น มีส่วนประกอบจากหลายสิ่ง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มีตั้งแต่ภาพประทับใจครั้งแรกที่ท่านสร้างขึ้น ความลึกซึ้งของความรู้ ความกว้างไกลในความรู้ที่มีอยู่ ความยืดหยุ่นในตัวท่าน ความอยากรู้อยากเห็นเป็นส่วนตัว และความจริงใจในตัวท่าน สิ่งต่างๆ ทั้ง ๖ ด้านนี้ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างภาพพจน์ ขอให้เราสำรวจต่อไปในรายละเอียด

ภาพประทับใจครั้งแรก “ภาพประทับใจครั้งแรก มักเป็นความประทับใจที่ยืนยง” ท่านคงจะเคยได้ยินคำกล่าวเช่นนี้มาก่อน แต่ท่านเคยพิจารณาไตร่ตรองอย่างจริงจังหรือไม่  ท่านเคยคำนึงถึงเครือข่ายโยงใยของความประทับใจครั้งแรกของท่านที่มีต่อบุคคลอื่นหรือไม่ ความประทับใจครั้งแรกของท่าน เป็นผลกระทบขั้นแรกต่อสายตาผูอื่น มันจะครอบคลุมไปถึงเรื่องการแต่งตัว เสียงพูด ความสง่าในตัว วิธีจับมือทักทาย การประสานสายตา และการวางตัว เป็นต้น วิธีการจัดการที่ท่านเลือกใช้ ในแต่ละองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ ย่อมมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อภาพที่ผู้อื่นมองเห็นในตัวท่านเป็นอันแรก ภาพประทับใจทางบวกในครั้งแรกสามารถทำให้การสื่อสารในตอนเริ่มต้นและตอนต่อ ๆ ไปกับคนอื่น ๆ ง่ายขึ้นและเป็นกันเองมากขึ้น ส่วนภาพประทับใจทางลบในครั้งแรก อาจจะทำให้ขาด สัมพันธภาพก่อนที่จะเริ่มต้นอะไรลงไป คนบางคนสามารถลบรอยประทับใจที่เลว ๆ ในครั้งแรกได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ คนจำนวนมากยอมพ่ายแพ้แทนที่จะเพียรพยายาม เพื่อเปลี่ยนภาพประทับใจทางลบ ที่ผู้อื่นสร้างไว้กับตน

ท่านเคยตัดสินบุคลิกภาพและหรือความสามารถของคนจากสิ่งที่เขาสร้างความประทับใจให้ท่านเป็นครั้งแรกเพียงอย่างเดียวหรือไม่ อะไรเป็นสิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดของท่าน เมื่อท่านคิดถึงคนที่มีสำเนียงภาษาถิ่น เพี้ยนหนักไปทางภาษาใต้ หรือคนที่ภาษาเพี้ยนหนักไปทางเหนือ หรือคนที่มีการทักทายด้วยการจับมือแบบปวกเปียก แล้วสำหรับคนที่แต่งตัวมอมแมม ท่าทางขาดอาหาร ใช้ศัพท์แย่มาก ท่าทางไม่ดี ใส่เสื้อฟิตคับตัว ถึงตรงนี้ท่านคงคิดว่า ลักษณะจุดอ่อนเหล่านี้ไม่ใช่ลักษณะที่จะเข้ากับท่านได้เลย อย่าหลอกตนเองหน่อยเลย เราเคยพบคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถแก้ไขภาพประทับใจครั้งแรกที่ตนได้สร้างไว้กับบุคคลอื่น

คนหนึ่งจากบัณฑิตวิทยาลัย ครั้งแรกมีปัญหามาก ไม่สามารถหางานทำได้ เขาเข้ารับการสัมภาษณ์จากหลายมหาวิทยาลัย เพื่อคัดเลือกเข้ารับตำแหน่งอาจารย์ประจำคณะ แต่มีอะไรบางอย่าง เป็นอุปสรรคขวางทางมิให้เขาได้งานประจำที่มีอยู่ในแต่ละแห่ง ไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องสมรรถภาพของเขา เขาเป็นบุคคลที่ฉลาดปราดเปรื่อง ไม่มีใครสงสัยถามในด้านวุฒิความสามารถ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หัวหน้าคณะคนหนึ่งมีความชอบพอเขาเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าทำงานที่นั่น แต่หัวหน้าคณะก็ได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้เขา ซึ่งคนอื่นไม่เคยทำ เขาพาคนนั้นออกไปข้างนอกและบอกว่า ภาพพจน์จากตัวเขา ทำให้เกิดปัญหาจากการให้คำสัมภาษณ์ของเขา มีสมาชิกคนอื่นของคณะที่สัมภาษณ์เขาสงสัยว่า “เขาจะเหมาะสม” สำหรับตำแหน่งหรือไม่ ท่านคงเห็นแล้วว่าผู้นั้นไม่ได้สร้างภาพประทับใจที่น่าพอใจ เมื่อใดได้พบปะคุ้นเคยกันจึงจะพบว่า เขาเป็นคนที่น่าคบที่สุด อบอุ่น แถมช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่าคนอื่น ๆ ที่เคยพบมา อย่างไรก็ตามภาพประทับใจเบื้องต้น ของเขาขาดบางสิ่งอันเป็นที่ต้องการ ประการแรกที่สุด การเลือกเครื่องแต่งกายของเขาอยู่ในลักษณะเลวมาก เขาสวมเสื้อผ้าราคาไม่แพง มีเส้นลาย บาดตา ตาสก๊อตมีสีสันตัดไม่เข้ากัน นั่นเป็นภาพแรก รองเท้าของเขา ไม่ค่อยได้ขัดเงา ผมมีน้ำมันเยิ้ม เวลาทักทายจับมือก็เหมือนคนพิการ เวลาพูดเสียงต่ำและเนือย ๆ และไม่ยอมสู้สายตากับคนอื่น หรืออาจสรุปได้ว่าภาพพจน์ทั้งหมดของเขาแย่จริง ๆ

เรื่องนี้มิได้มีความมุ่งหมายที่จะให้ร้าย เราเคารพในความสามารถทางวิชาชีพของเขา และรักเขาในทางส่วนตัว แต่มิตรภาพของเราไปไกลเกินกว่าความประทับใจขั้นแรก เราทราบว่าเขาคิดแสดง และรู้สึก ตลอดจนปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร แต่โชคร้ายที่ความประทับใจครั้งแรกของเขาและภาพพจน์ของเขา เป็นเหตุให้คนจำนวนมากไม่ยอมมีสัมพันธภาพที่มีความหมายด้วย ด้วยเหตุนี้บุคคลอื่น ๆ ย่อมไม่มีโอกาสทราบ และไม่มีโอกาสที่จะเกิดความศรัทธาในตัวเขาอย่างเช่นที่เรามี เราเข้าใจว่าเรื่องนี้สามารถแสดงให้ปรากฏชัดเจนได้ ถึงอันตรายที่ร้ายแรงยิ่ง ของความประทับใจครั้งแรก คนส่วนใหญ่มักพิจารณาคุณภาพของหนังสือจากปกที่อยู่ภายนอก และสิ่งที่น่าเสียใจก็คือ มันคงจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป ฉะนั้น สิ่งเดียวที่ท่านสามารถทำได้ เพื่ออยู่ไกลจากข้อเท็จจริงนี้คือ ให้ความเอาใจใส่เต็มที่ในการสร้างภาพพจน์ให้สวยกว่าที่เป็นจริงให้มากที่สุด

ผลการวิจัยได้แสดงว่า ท่านสามารถเปลี่ยนปฏิกิริยาทั้งหลายที่มีต่อตัวท่านได้ง่าย ๆ ด้วยการเปลี่ยนภาพพจน์ของท่านในบางด้าน ซึ่งสัมพันธ์กับภาพพจน์ครั้งแรกที่ท่านปรากฎในสายตาของคนอื่น ตัวอย่างเช่น สิ่งหนึ่งที่ท่านเปลี่ยนได้ง่ายมากคือ เรื่องการทักทายจับมือกับผู้อื่น ท่านจะต้องมีวิธีจับที่มั่นคงแต่ไม่แข็งขันเกินไป คนที่พยายามบีบกระดูกในมือของท่าน ย่อมก่อให้เกิดการสนองตอบในทางลบได้ เช่นเดียวกับบุคคลที่จับมือแบบอ่อนระโหยโรยแรง ยิ่งกว่านั้นท่านต้องไม่จับมืออีกฝ่ายหนึ่งไว้นานเกินไป ความคิดแปลก ๆ อาจจะเข้ามาในใจของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นความคิดที่อยู่ในความตั้งใจของท่าน จงประสานสายตากับอีกฝ่ายหนึ่ง ขณะที่ท่านกำลังจับมือทักทาย ซึ่งจะเป็นการช่วยให้สัมพันธภาพเริ่มได้ ในบัดนั้น

ก่อนที่ท่านจะมีโอกาสจับมือทักทายกับใครก็ตาม ใครเหล่านั้นย่อมมีโอกาสมองเห็นวิธีที่ท่านนั่งหรือเดิน ยิ่งมองเห็นวิธีการแต่งตัวของท่าน และเห็นว่าท่านสง่างามเพียงใด เมื่อพูดถึงเรื่องการนั่งและการวางท่ายืน เราขอเสนอแนะอย่างเดียวคือ ให้ท่านหลีกเลี่ยงท่าใดก็ตามที่มากเกินไป คนที่เดินด้วยลำตัวที่หนัก เดินลากเท้า เดินกระโดด หรือแม้แต่เดินโยกไหล่ไปข้างหน้า อาจจะเป็นภาพพจน์ที่บวกหรือไม่บวกก็ได้ เช่นเดียวกับการนั่ง เมื่อท่านนั่งซุกตัวเข้าไปในเก้าอี้ หรือใช้ขาพาดพนักเก้าอี้ หรือในท่าที่ไม่ปกติท่าใดท่าหนึ่ง ท่านอาจกำลังสร้างภาพพจน์ที่ไม่สวยงาม จงหลีกเลี่ยงการแสดงออกในทางที่มากไป จงนั่งและเดินตรง ๆ และปล่อยตนตามสบาย

จะพูดเท่าใดก็ไม่พอเกี่ยวกับลักษณะส่วนตัวทั่วไปด้านความสะอาด และความสง่างาม การวางตนด้วยลักษณะสง่างามและความสะอาด เป็นสิ่งสำคัญที่เห็นได้ชัด แต่ก็มักจะถูกเมิน มีคนจำนวนไม่น้อยในองค์กรของท่านไม่ว่าจะอยู่ในระดับใด ท่านมักพบว่ามี่ขี้เล็บดำ ขอบคอเสื้อหรือเสื้อนอกมอมแมมสกปรก ท่านเคยเห็นเพื่อนร่วมงานผู้ชายที่มีขนโผล่จากรูจมูกและรูหูมากเกินไปบ้างไหม สำหรับเพื่อนร่วมงานที่เป็นสตรี ท่านเคยพบผมที่ฉีดสเปรย์จนแข็ง หรือพื้นหน้าแต่งเหมือนพอกไว้ หรือมีกลิ่นหัวน้ำหอมรุนแรงบ้างไหม หลังจากอาหารกลางวันท่านเคยพูดกับคนที่มีกลิ่นลมหายใจ เหม็นปลาทูน่า กลิ่นกระเทียม หรือกลิ่นสุราที่ไม่สดชื่นเลยบ้างไหม ท่านเคยสังเกตกลิ่นอบอวลจากเสื้อนอก เสื้อเชิ้ต เสื้อชุด หรือรองเท้าที่เพื่อนร่วมงานสวมใส่ซ้ำหลาย ๆ ครั้งบ้างไหม ท่านเป็นคนที่สะอาดโดยสมบูรณ์แบบ ปราศจากสิ่งกลํ้ากรายบุคลิกลักษณะสง่างามเหล่านี้หรือไม่ จงให้ความสนใจ และสำนึกให้จงหนักในเรื่องความสะอาดและสง่าราศีส่วนตัว ในการสร้างภาพพจน์ให้ปรากฏต่อผูอื่น ท่านสามารถและควรจะแก้ไขจุดต่าง ๆ ดังกล่าว ทันทีถ้าจำเป็น

ลักษณะที่ท่านแต่งกายย่อมมีผลกระทบอย่างลึกซึ้ง ต่อการให้การยอมรับในตัวท่านจากผู้อื่น เสื้อผ้าอาจจะไม่สร้างคน แต่เสื้อผ้าก็เป็นเสมือนข้อความที่ยืนยันได้ว่าบุคคลนั้น ๆ คือใคร ฉะนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับท่านที่จะใช้การแต่งตัวเป็นสื่อความหมายบอกถึงลักษณะของท่าน ต่อบุคคลทั่ว ๆ ไป

เสื้อผ้าสามารถสร้างภาพพจน์ที่มีพลังมหาศาล ด้วยการแต่งตัวเป็น ท่านสามารถปลุกให้เกิดการสนองตอบทางบวกต่อบุคลิกภาพของท่าน สิ่งนี้แหละที่เปิดโอกาสให้ท่านประสบความสำเร็จในการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น อย่างไรก็ตามในฐานะนักบริหาร ท่านจะต้องแต่งเสื้อผ้าที่เข้ารูปพอดี เพื่อยกระดับขององค์กร ท่านต้องฉายรัศมีของความเป็นผู้มีอำนาจและความสำเร็จด้วยการแต่งตัว ในเวลาเดียวกันท่านก็มิได้ต้องการแสดงอำนาจเหนือพนักงานของท่าน แม้ว่าเรื่องนี้จะฟังคล้าย เป็นคำสั่งที่หนักเกินไป แต่ก็สามารถสัมฤทธิผลได้

เพื่อการสร้างภาพพจน์ของความมีอำนาจและความสำเร็จ จงแต่งตัวตามประเพณีนิยมที่เหมาะสม จงพยายามซื้อเสื้อผ้าที่เป็นเนื้อเยื่อไม้แท้ๆ แม้ว่าผ้าชนิดนี้จะมีราคาแพงกว่าประเภทอื่นในตอนเริ่มซื้อ แต่เนื้อผ้า จะทนทานและดูงามขึ้นเรื่อย ๆ เสื้อผ้าประเภทนี้ได้แก่ ชุดเสื้อนอกขนสัตว์ หรือชุดผ้าฝ้าย เสื้อเชิ้ตฝ้าย เสื้อผ้าไหม เนกไทไหม และผ้าพันคอหรือผ้าคุมไหล่ที่เป็นผ้าไหม รองเท้าหนัง เข็มขัดหนังและกระเป๋าเอกสารหนัง สไตล์ของสีและแบบตัดเย็บเสื้อผ้า ควรจะมีลักษณะตามประเพณีนิยม สีขาว สีน้ำเงิน และสีนวลอ่อน ๆ เป็นสีที่นิยมสำหรับเอเชิ้ตและเสื้อครึ่งท่อนของสตรี เช่นเดียวกับผ้าลายสก๊อตตามจารีตประเพณี สีที่มีประสิทธิผลสำหรับชุดเสื้อนอก ผู้ชายเป็นสีที่จัดอยู่ในประเภท เทา นํ้าเงิน (ยกเว้นสีฟ้าอ่อนมากๆ สำหรับชายได้) และสีนํ้าตาลอ่อนประเภทสีนวล การเลือกแบบการตัดเย็บที่เหมาะสม และพอดีกับรูปร่างเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเสื้อผ้าทั้งหมดของท่าน

เราต้องยอมรับว่า เราเคยพบคนที่ปฏิบัติตามหลักที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด แต่ก็ยังคงสร้างภาพพจน์ครั้งแรกที่แย่มาก เพราะเขาเหล่านั้นไม่รู้วิธีที่จะจัดทุกอย่างให้สอดคล้องเข้ากันได้ ตัวท่านเองก็คงจะได้พบบุคคลที่สวมเสื้อนอก ประเภทมีลายเส้นทอทางยาวกับเสื้อเชิ้ตลายสก๊อต และผูกเนกไทชนิดมีลวดลายอีกด้วย ถ้าท่านจะสร้างภาพพจน์ที่สมบูรณ์แบบในสายตาคนอื่น ท่านต้องรู้วิธีที่จะจัดเสื้อผ้าให้เข้าชุดที่เหมาะสมด้วย จงแน่ใจว่าสีของเสื้อผ้าที่สวม ต้องมีลักษณะที่ให้ความสบายใจแก่กันและกัน เนกไทหรือผ้าพันคอของท่าน ควรจะเลือกสีที่มีอยู่ในพื้นสีเดียวกับที่อยู่ในเสื้อนอกของท่าน และหรือสอดคล้องกับเสื้อเชิ้ต หรือเสื้อครึ่งท่อนที่ท่านสวม ถุงเท้าของผู้ชายต้องเข้ากันได้กับรองเท้าและหรือชุดเสื้อนอกเสื้อเชิ้ตแขนยาว หรือเสื้อแขนสั้นต้องจัดให้เข้ากับเสื้อนอก เพื่อให้ได้ภาพพจน์ที่สมบูรณ์ในลักษณะเป็นผู้บังคับบัญชาที่ประสบความสำเร็จ เครื่องประดับประเภทเพชรนิลจินดา และเครื่องประดับอื่น ๆ จะต้องเป็นสิ่งที่ธรรมดาและใช้ประโยชน์ได้

ถ้าความสูงและน้ำหนักหรือวัยของท่าน สร้างปัญหาด้านอารมณ์ หรือเป็นปัญหาสำหรับภาพพจน์ของท่าน ท่านสามารถใช้เสื้อผ้าช่วยลดปัญหาเหล่านั้นได้ ตัวอย่างเช่น คนรูปร่างสูงอาจจะแต่งสีอ่อนและผ้าบางเบา และหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีนํ้าหนักและสีเข้ม คนรูปร่างเตี้ยอาจจะต้องแต่งตรงข้ามเลย คนเตี้ยสามารถสวมเสื้อผ้าที่แสดงความมีอำนาจได้มากขึ้น เช่น ชุดเสื้อนอกเป็นผ้าลายเส้นสีเข้ม ๆ ตัดด้วยเสื้อเชิ้ตขาวและสวมเสื้อกั๊กทับ และรองเท้าปลายแหลมสำหรับชาย ส่วนผู้หญิงให้ใช้เสื้อคุณภาพสูงเรียบ เสื้อชุดตัดอย่างดี สีเข้ม คนที่มีลำตัวใหญ่สามารถ แต่งสูทสีดำ และสวมเสื้อผ้าประเภทลดการเน้นยํ้านํ้าหนัก ขณะเดียวกัน คนผอมสามารถใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ๆ เพื่อให้ดูอ้วนขึ้นบ้างนิดหน่อย คนหนุ่มอาจจะต้องสร้างภาพพจน์ให้ดูมีอำนาจและพลังเพิ่มมากกว่าสภาพที่เป็นจริง และสามารถแต่งตัวอยู่ในประเภทคนเตี้ยได้ คนสูงอายุซึ่งมีวัยที่ครองกำลังและอำนาจในตัวมาแล้ว สามารถแต่งตัวตามที่เสนอไว้สำหรับคนสูงได้ ความสำเร็จในการแต่งตัวโดยยึดการแสดงออกในเชิงมีอำนาจบังคับบัญชา และตามประเพณีนิยมนี้ ย่อมเป็นการสร้างภาพพจน์ซึ่งท่านจะต้องชอบให้ปรากฏแก่สายตาของบุคคลที่อยู่ในองค์กรของท่านซึ่งมีหน้าที่ตัดสินใจ เกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งของท่านให้สูงขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ภาพพจน์เช่นนี้จะทำให้พนักงานของท่านพร้อมที่จะยอมรับท่านอย่างจริงจัง ทั้งข้อ เสนอแนะและคำสั่งต่าง ๆ ของท่าน ย่อมจะถูกนำไปปฏิบัติโดยทันทีและด้วยความถูกต้อง เมื่อใดที่ท่านต้องการติดต่อกับพนักงานตามระดับชั้น ก็จงเปลี่ยนภาพพจน์ของท่านให้มีการปรับตนเองให้น้อยที่สุด ท่านสามารถคลายเนกไทหรือผ้าพันคอให้หลวม ๆ แกะกระดุมตัวบนของเสื้อเชิ้ตออก ถอดเสื้อกั๊กและหรือเสื้อนอก การกระทำเช่นนี้จะทำให้เกิดภาพพจน์ที่เป็นกันเองได้มากขึ้น และจะช่วยให้พนักงานสื่อสารกับท่านอย่างเปิดเผยได้ง่ายขึ้น เมื่อใดที่ท่านต้องประชุมกับบุคคลระดับอาวุโสและระดับพนักงานพร้อม ๆ กัน ท่านจะต้องตัดสินด้วยค่านิยมของท่านว่า ท่านจะสร้างภาพพจน์เช่นไรกับบุคคลเหล่านั้นในสถานการณ์นั้น ๆ การรู้ในสิ่งที่ท่านรับรู้อยู่ขณะนี้ เกี่ยวกับภาพพจน์และเสื้อผ้าที่สวมใส่ย่อมทำให้ท่านสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องขึ้นในการปรากฏตัวในแต่ละสถานการณ์ต่าง ๆ กัน ในอนาคต มากกว่าที่ท่านเคยปฏิบัติตนในอดีต

เสื้อผ้าของท่าน เสียงพูด ความสง่างาม การทักทาย และการวางตัวต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนมีส่วนทำให้บุคคลอื่น ๆ ให้การต้อนรับท่าน ในลักษณะที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ภาพประทับใจครั้งแรกมีความหมายมาก และถ้าท่านไม่เสนอตนในภาพพจน์ที่เหมาะสมเพื่อสร้างให้บุคคลอื่น ได้รับความประทับใจทางบวกในตัวท่าน ภาพพจน์เหล่านั้นก็จะมีความหมายในทางร้ายกับท่าน จงปฏิบัติตนให้ดีที่สุด ให้ภาพพจน์มีความหมาย และเป็นประโยชน์สำหรับตัวท่านเอง

ความลึกซึ้งในความรู้ หมายถึง ท่านรู้วิชาการของท่านดีเพียงไร หมายถึงสาขาวิชาที่ท่านเชี่ยวชาญอยู่ ท่านรู้จักบริษัทของท่านดีเพียงไร ท่านรู้จักโรงงานของท่านดีเพียงไร ท่านทันต่อเหตุการณ์ที่สัมพันธ์กับคู่แข่ง ของท่านที่เป็นด้านจุดแข็งและจุดอ่อนของบริษัทหรือไม่ ท่านคุ้นเคยกับทักษะและเทคนิคของการเป็นผู้บริหารที่ดีในบริษัทของท่านหรือไม่ คนอื่น ๆ เข้ามาหาท่านด้วยปัญหาของบริษัทและโรงงานอุตสาหกรรม เพราะเขาเคารพในความชำนาญการของท่านหรือไม่ หรือว่าบุคคลที่เป็นพนักงาน เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนผู้ควบคุมงานคอยหลบหน้าท่านเพราะความตื้นแคบในความรู้ของท่านหรือไม่ ความลึกในด้านความรู้ของท่านสร้างภาพพจน์ให้เป็นที่น่าเชื่อถือและเรียกความศรัทธาจากพนักงานของท่าน และเพื่อนร่วมงานหรือไม่ หรือท่านเคยได้ยินเขาเหล่านั้นพูดคำเหล่านี้บ้างไหม “ฉันก็ทำงานที่เขาทำได้ดีเท่า ๆ กับเขานั่นแหละ”

ถ้าท่านคิดว่าความรู้ของท่านจะไม่ลึกพอที่จะมีผลต่อภาพพจน์ของท่าน ท่านก็จะถูกมองผิด ๆ อย่างน่าเสียดาย จงใช้ความมุมานะเต็มที่ ที่จะเรียนรู้ให้มากที่สุดเกี่ยวกับบริษัทและโรงงานอุตสาหกรรมของท่าน จงทำความคุ้นเคยกับนโยบายและกระบวนการดำเนินงานของบริษัทของท่านอย่างถ้วนถี่ จงรู้จักผลผลิตและบุคลากรของบริษัทให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ศึกษาสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มต่าง ๆ ภายในโรงงานอุตสาหกรรม และจงค้นให้พบว่าท่านถูกจัดอยู่ในระดับใดในบริษัท เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งของท่าน จงหาประโยชน์จากโปรแกรมการฝึกอบรมทุกประเภทที่บริษัทของท่านจัดให้ ด้วยการเพิ่มความรู้ให้ลึกขึ้น ท่านย่อมจะได้รับความเคารพนับถือจากพนักงานของท่าน จากเพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาเบื้องสูงด้วยภาพพจน์ของความสูงด้วยปัญญา และ ความเชื่อถือได้

ความกว้างของความรู้ ด้านนี้หมายถึง สมรรถภาพในตัวที่จะสนทนากับบุคคลอื่นในเรื่องที่อยู่นอกสาขาที่ตนถนัด ตัวอย่างเช่น ใครได้ชัยชนะในการแข่งขันฟุตบอลเมื่อวันเสาร์ อะไรคือพัฒนาการล่าสุดของโลก ท่านคุ้นเคยกับหนังสือและภาพพจน์ที่เป็นที่นิยมเรื่องล่าสุดนี้หรือไม่ ท่านสามารถสนทนากับผู้อื่นในเรื่องที่เป็นความสนใจของพวกเขาหรือไม่

ด้วยการเพิ่มความกว้างของความรู้ ท่านย่อมสามารถสร้างสัมพันธภาพ กับบุคคลทั่วไปได้ง่ายขึ้น ถ้าท่านไม่เกาะติดอยู่กับหัวข้อสนทนาที่ตัวท่าน ปรารถนาเพียงผู้เดียว ท่านย่อมจะมีส่วนทำให้คนอื่นอยากสนทนากับท่าน เมื่อท่านมีความตั้งใจจริงที่จะพูดกับคนอื่น ๆ ในหัวข้อเรื่องที่อยูในความสนใจ และมีความหมายสำคัญสำหรับคนอื่น คนเหล่านี้จะรู้สึกสบายใจและเป็นกันเองมากขึ้นในขณะที่มีท่านร่วมอยู่ด้วย และคนเหล่านี้อาจหันเหตนเองกลับมาร่วมสนทนากับท่าน เขาจะมีความรู้สึกว่าท่านมีอะไรที่เหมือน ๆ กับเขาที่จะเล่าสู่กันฟัง จากผลการวิจัยแสดงว่าถ้ามนุษย์เรารู้สึกว่าตนมีอะไรเหมือน ๆ กัน จะชอบกันและกันได้ดีกว่าเดิม ฉะนั้น ด้วยการขยายความรู้ในด้านกว้าง ท่านจะเพิ่มอิทธิพลของท่านกับบุคคลหลาย ๆ ประเภทมากขึ้นและในวงกว้างขึ้น

ความรับผิดชอบในการขยายความรู้ให้กว้างขึ้น ย่อมเป็นภาระหนักสำหรับท่าน มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ท่านสามารถทำได้ทันทีวันนี้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงวัยหรือภูมิหลัง เพื่อขยายความรู้ให้กว้างขึ้น เราขอเสนอแนะให้ท่านอ่านหนังสือพิมพ์ประจำวันของท้องถิ่นทุกวัน อ่านตั้งแต่หน้าแรก ถึงหน้าสุดท้าย จงอย่าอ่านเพียงหน้าที่เกี่ยวกับกีฬาหรือการ์ตูน หรือแฟชั่น หรือหน้าโฆษณาเท่านั้น จงอ่านทุกอย่าง นอกจากอ่านหนังสือพิมพ์รายวันแล้ว ท่านควรจะอ่านหนังสือข่าวรายปักษ์ที่สำคัญ ๆ การอ่านเช่นนี้จะทำให้ท่านได้ภูมิหลังอย่างดีเกี่ยวกับเหตุการณ์ระดับชาติและนานาชาติ ทั้งยังได้เพิ่มพูนความรู้ในสาขาการศึกษา ศิลปะ การกีฬา หนังสือ ภาพยนตร์ ฯลฯ จงใช้ความพยายามที่จะอ่านหนังสืออย่างน้อยปีละ 2 เล่ม ที่เป็นหนังสือนอกสาขาวิชาหรืองานที่ท่านสนใจ และจงพยายามเลือกหนังสือที่มีทั้งประเภทกึ่งนิยาย และประเภทสารคดีล้วน ๆ

จงใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด จากช่วงเวลาที่ไม่ได้อะไรเป็นผลผลิต เช่น ช่วงเวลาอาบนํ้า เวลาโกนหนวด เวลาแต่งหน้า เวลาขับรถไป-กลับ จากที่ทำงาน เวลาทำครัว เวลาทำความสะอาด และเวลาอื่น ๆ ที่ท่านสามารถคิดได้ ท่านสามารถใช้เวลาที่ไม่ได้ผลผลิตนี้ด้วยการดูข่าวภาคเช้า หรือภาคค่ำ ฟังข่าววิทยุเวลาใดก็ได้หรือฟังบทความที่เกี่ยวกับหนังลือ และหรือการศึกษาในเทปบันทึกเสียง ประการสุดท้ายแม้ว่าท่านจะเป็นคนที่ไม่ทันสมัย หรือไม่มีความรู้ในเรื่องที่บุคคลอื่นกำลังสนทนา ก็จงแสดงความสนใจด้วยการซักถาม ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้ จงจำไว้ว่าการขยายความรู้ให้กว้างขวางขึ้น จะทำได้ง่ายที่สุดด้วยการอ่าน ฟัง และ ปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ๆ

ความยืดหยุ่น ความยืดหยุ่นคือความตั้งใจและทักษะส่วนตัวของท่านที่จะปรับพฤติกรรมของตัวท่านเองให้สัมพันธ์ด้วยดีกับบุคคลอื่น เป็นการเคลื่อนตัวท่านออกจาก “แดนสุขารมณ์” ของตนเองเพื่อสื่อสาร และปฏิสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพกับบุคคลอื่นในระดับที่เขาเป็น ความยืดหยุ่นคือสิ่งที่ท่านจัดการกับตัวท่านเอง มิใช่จัดการกับคนอื่น ทุกครั้งที่ท่านชะลอตนให้ช้าลงที่จะปฏิสัมพันธ์กับอีกบุคคลหนึ่งซึ่งไม่สบายใจที่จะเคลื่อนใจให้เร็วเท่ากับท่าน เป็นการแสดงว่าท่านกำลังใช้วิธียืดหยุ่นเมื่อใด ที่ท่านใช้เวลาหยุดฟังเรื่องส่วนตัวของคนอื่น แทนที่จะเริ่มปฏิบัติงานที่อยู่ในมือท่านขณะนั้น แสดงว่าท่านกำลังยืดหยุ่น เมื่อใดที่ท่านใช้ความพยายามที่จะพูดให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอีกบุคคลหนึ่ง แสดงว่าท่านกำลังยืดหยุ่น เมื่อใดที่ท่านกำลังกระทำอะไรที่อยู่ในรายละเอียดมากกว่าลักษณะประจำตัว ที่ท่านเคยปฏิบัติอยู่ หมายความว่าท่านกำลังยืดหยุ่นเมื่อใดที่ท่านเพียงแต่ใช้ความพยายามที่จะสนองตอบความต้องการส่วนตัวและความต้องการของบุคคลอื่นในเชิงวิชาชีพ หมายความว่าท่านกำลังยืดหยุ่น

ความยืดหยุ่นมีความจำเป็น เพราะด้วยเหตุของความจริงที่ว่า มนุษย์เราแตกต่างกันและต้องการได้รับการปฏิบัติในลักษณะที่แตกต่างกันด้วย เมื่อใดที่ท่านปฏิบัติต่อคนทุกคน ด้วยวิธีเดียวกัน หรือปฏิบัติต่อเขาในลักษณะไม่เหมาะสม บุคคลเหล่านี้ย่อมจะมีความรู้สึกไม่สบายใจกับท่าน และจะเกิดความเครียดขึ้น ซึ่งจะส่งผลกลับกันในทางสร้างความไม่ไว้วางใจ แทนความไว้วางใจ ซึ่งท่านพยายามจะสร้างให้เกิดขึ้น การบริหารเชิงประสานสัมพันธ์เรียกร้องให้สร้างสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นในลักษณะที่ปลอดความเครียด ซื่อตรง และเปิดเผย ท่านจะทำได้ด้วยการประสานสัมพันธภาพและการแลกเปลี่ยนกันเข้าด้วยกันเพื่อให้ทุกคนมีชัยชนะ ท่านจะทำได้ด้วยลักษณะของการใช้ไหวพริบ ใช้เหตุผล และความเข้าใจ ท่านจะทำได้ด้วยการแสดงพฤติกรรมยืดหยุ่นให้เป็นที่ปรากฏ

ความกระตือรือร้น ใครคือนักแสดงที่เป็นที่โปรดปรานของท่าน ลองใช้จินตนาการดูว่า ท่านกำลังจะไปร่วมงานดนตรีการกุศลในคืนนี้ เพื่อจะดูนักแสดงคนโปรดของท่าน และเพราะเป็นงานดนตรีการกุศล บัตรที่เข้าชมจึงมีราคาแพงมากคือ ๕๐๐ บาทต่อคน ทันทีที่ท่านและคู่ควงของท่านมาถึงและเข้าที่นั่งย่อมหมายความว่า เงิน ๑,๐๐๐ บาท ได้ปลิวออกจากกระเป๋าแล้วโดยยังไม่ได้ดูอะไร แล้วผู้แสดงก็ปรากฏตัวและผู้เข้าชมทั้งห้องประชุมก็ปรบมือเสียงดังสนั่น โดยปกติผู้แสดงทั่วไปจะร้องเพลง ๑๒-๑๕ เพลง ในช่วงของการแสดงดนตรี เมื่อนักร้องออกมาที่เวที เขาเดินตรงไปที่ไมโครโฟนและเริ่มร้องเพลง เขาร้องเพลง ๑๕ เพลง ได้ดี เท่ากับที่เราเคยได้ยินเขาร้องเพลงเหล่านั้น แต่คืนนี้เขาร้องเพลงเหล่านั้น อย่างต่อเนื่องกันโดยไม่มี “การหยุด’’ หรือสร้างบรรยากาศความสัมพันธ์กับผู้ชม เมื่อเพลงที่ ๑๕ สิ้นสุดลง นักแสดงกล่าวขอบคุณผู้ชมที่ได้มาดูเขา และก็เดินหายเข้าหลังเวทีไป ท่านคิดว่าท่านและคู่ของท่านสนุกกับการแสดงดนตรีนั้นมากน้อยเพียงไร ถ้าท่านเหมือนกับบุคคลอื่น ๆ ทั่วไป ท่านคงจะรู้สึกว่าถูกโกง เพราะนักร้องไม่ได้พูดกับผู้ชมเลย ไม่ได้สร้างสัมพันธภาพ และไม่ได้แสดงความกระตือรือร้นเลย แม้ว่าผู้แสดงจะได้ร้องเพลงจำนวน ๑๕ เพลง ได้ดีเท่า ๆ กับที่ท่านเคยได้ยินผู้อื่นร้องเพลงเหล่านั้นมาก่อน หรือแม้แต่ที่ตัวเขาเองเป็นผู้ร้อง แต่ท่านก็ยังรู้สึกว่าถูกโกง และหากท่านรู้ว่าคืนนี้ผู้แสดงรู้สึกไม่สบาย เพราะอยู่ดึกเมื่อคืนก่อน และยังอยู่ในสภาพมึนไม่สร่าง ท่านจะเปลี่ยนความคิดของท่านเกี่ยวกับการแสดงของเขาหรือไม่ ถ้าท่านรู้ว่าก่อนหน้าที่เขาจะขึ้นบนเวที เขามีเรื่องโต้เถียงกับผู้จัดการฝ่ายธุรกิจของเขาเกี่ยวกับสัญญาการโฆษณา ท่านจะเปลี่ยนทัศนคติของท่านให้ดีขึ้นได้ไหม อนึ่ง ถ้าท่านเหมือนกับคนส่วนใหญ่ การได้รับรู้ในเรื่องเหล่านี้ ย่อมไม่มีทางที่จะเปลี่ยนความคิดของท่านที่ว่า ถูกโกง ถ้าผู้แสดงเพียงแต่ได้แสดงความกระตือรือร้นและความอบอุ่นสักนิดหน่อยต่อผู้ชม ท่านก็คงจะเกิดความรู้สึกที่ต่างจากเดิมมาก ท่านอาจจะรู้สึกกระตือรือร้นไปด้วย

เมื่อใดที่ท่านแสดงตนขาดความกระตือรือร้นในงานของท่าน ในบริษัทของท่าน หรือในบุคลากรของท่าน ท่านคิดว่าพนักงานของท่าน จะรับรู้หรือสนใจสาเหตุของการไม่กระตือรือร้นของท่านหรือไม่ บุคคลเหล่านั้นจะไม่มีความรู้สึกกับท่าน เหมือนกับที่ท่านมีความรู้สึกต่อนักร้องผู้นั้นหรือ เขาเหล่านั้นจะไม่รู้สึกถูกโกงโดยผู้บริหารของเขา ซึ่งเป็นผู้ขาดความกระตือรือร้น เช่นเดียวกับที่ท่านรู้สึกถูกโกงจากผู้แสดงซึ่งขาดความกระตือรือร้นเช่นนั้นหรือ

นักบริหารเกือบทั้งหมด ชอบที่จะเห็นความกระตือรือร้นในตัวพนักงานของเขา พนักงานที่กระตือรือร้นย่อมจะทำงานหนักกว่า ให้เวลานานกว่า และทำงานได้ถูกต้องมากกว่าผู้ที่ไม่กระตือรือร้น ถ้าท่านต้องการให้พนักงานของท่านเกิดความกระตือรือร้น ท่านต้องสร้างคุณสมบตินั้นในตัวท่าน เรื่องนี้มิใช่เพิ่งเกิดขึ้น ความกระตือรือร้นเป็นเสมือนเชื้อโรค ย่อมแพร่ถึงกันได้ทั้งทางบวกและทางลบ เมื่อใดที่ท่านแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นในตัวท่าน ในพนักงานที่ร่วมงานกับท่านในบริษัทย่อมจะปรากฏทัศนคติเช่นเดียวกับที่ปรากฏอยู่ในตัวพนักงานของท่านด้วยทุกคนเหล่านั้น จะกระตือรือร้น และจะแสดงต่อพนักงานของท่านด้วยในที่สุด และในทำนองเดียวกันพนักงานของท่านย่อมจะแสดงการขาดความกระตือรือร้น เกี่ยวกับตนเอง เกี่ยวกับเพื่อนร่วมงาน เกี่ยวกับงานและบริษัทของตน การตัดสินใจขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง ระหว่างความขมขื่นหรือความกรตือรือร้น ท่านจะเลือกอะไร

ความจริงใจ  ความจริงใจเป็นองค์ประกอบสุดท้ายของภาพพจน์ ซึ่งมีความหมายง่าย ๆ ว่า ท่านจะต้องไม่หลอกหรือไม่ควรจะปลอมแปลงภาพพจน์ ท่านจะต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างจริงใจที่จะแก้ไขการสร้างภาพประทับใจครั้งแรกของท่าน ปรับปรุงความลึก ความกว้างในความรู้ของท่าน ปรับปรุงความยืดหยุ่นและความกระตือรือร้นในตัวท่าน เมื่อท่านทำอะไรครั้งแรกย่อมจะเหมือนกับการเปลี่ยนพฤติกรรมทั่ว ๆ ไปก็คือ จะทำให้ท่านรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย แต่ถ้าท่านปฏิบัติเป็นเวลานาน พอสมควรและจริงใจในการปฏิบัติ สิ่งนั้นจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวท่าน ความจริงใจหรือการขาดความจริงใจนี้ จะสร้างภาพให้ปรากฎในสายตาของบุคคลอื่น และจะกลายเป็นส่วนของภาพพจน์ทั้งหมดของตัวท่าน ถ้าท่านปฏิบัติตนกับผู้อื่นในลักษณะที่ไม่จริงใจ ย่อมจะส่งผลกระทบในทางทำลายสัมพันธภาพระหว่างกันมากกว่าที่ท่านจะขาดองค์ประกอบ สำคัญที่กล่าวมาแล้วเกี่ยวกับภาพพจน์เสียอีก ดังนั้น เหนือสิ่งอื่นใด ท่านจงจริงใจในการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และแสดงภาพพจน์ที่จริงใจ ต่อบุคคลอื่น

ภาพพจน์และการบริหารเชิงประสานสัมพันธ์

การสนองตอบที่ท่านได้รับจากโลกรอบตัวท่านย่อมเป็นเครื่องวัด ความสำเร็จของท่านในการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน ภาพพจน์ที่ท่านสร้างขึ้นจะมีส่วนช่วยเสริมหรือลดความสำเร็จในการสื่อสัมพันธ์ระหว่างกัน การจัดการสื่อสารทุกชนิดตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกับอีกบุคคลหนึ่งนั้น หมายถึง ท่านกำลังแสดงบนเวทีละคร คำพูดทุกคำ อากัปกิริยา การแสดงออกตลอดจนภาพประทับใจ จะมีผู้ดูและประเมินท่านอยู่ จะโดยรู้สึกตัวหรือไม่รู้สึกตัวก็ตาม ดังนั้น จงยอมรับความเจ็บปวดทุกชนิดที่ท่าน จะต้องอดทนต่อสู้เพื่อให้ได้ภาพพจน์ที่ท่านบรรจงสร้างให้ปรากฏในการประสานสัมพันธ์แต่ละครั้งและทุกครั้ง ทั้งนี้ย่อมเป็นวิธีที่ช่วยให้ท่านสะดวก ปลอดโปร่งในการสื่อสารด้วยความไว้วางใจกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน และเปิดเผยต่อกัน